ทองคำ คืออะไร ?
- yuwadee mahasak
- 29 ม.ค. 2562
- ยาว 1 นาที

ทองคำ
เรียกสั้นๆว่า "ทอง"
เป็นลำดับที่ 79 ในตารางธาตุ มีสัญลักษณ์ Au ทองคำมีโลหะแข็งสีเหลือง เป็นธาตุอิสระในธรรมชาติ ไม่ว่องไวต่อปฏิกิริยา และทนทานเกิดสนิมได้ดี ทองคำมีจุดหลอมเหลวที่ 1064 องศาเซลเซียส และมีจุดเดือดที่ 2701 องศาเซลเซียส มีความถ่วงจำเพาะ 19.3 และมีน้ำหนักอะตอม 196.67 ลักษณะส่วนใหญ่ที่พบเป็นเม็ดกลม เกล็ด แบน หรือรูปร่างคล้ายกิ่งไม้ หรือผลึกแบบลูกเต๋า
คุณสมบัติสำคัญของทองคำอีกประการหนึ่งคือ ทองคำเป็นโลหะอ่อนและหเหนียว ทองคำที่มีน้ำหนัก 1 ออนซ์ สามารถทำให้เป็นเส้นได้ความยาว 50 ไมล์ และสามารถตีแผ่ทองคำให้เป็นแผ่นบางได้ประมาณ 0.00005 นิ้วได้ และที่สำคัญ ทองคำเป็นโลหะที่ไม่ละลายในกรดชนิดใดเลย แต่สามารถละลายได้ละลายได้อย่างช้าๆ ในสารละลายผสมระหว่างกรดดินประสิวและกรดเกลือ.
จุดเด่นสำคัญของทองคำอยู่ที่สี ทองคำมีสีเหลืองสว่างสดใสชัดเจน มีประกายมันวาวสะดุดตา นอกจากนี้จุดเด่นอีกประการหนึ่งคือ ไม่เป็นสนิมแม้จะจมอยู่ในดินโคลน มีความแข็งเหนี่ยว เนื้อแน่น ไม่สกปรกง่าย ไม่หมอง ไม่เป็นคราบไคลได้ง่ายเหมือนวัตถุชนิดอื่นๆ .
คุณสมบัติเหล่านี้ประกอบกับลักษณะภายนอกที่เป็นประกายจึงทำให้เป็นที่หมายปองของมนุษย์มาเป็นเวลานาน โดนสามารถนำมาตีมูลค่าสำหรับการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ และใช้เป็นวัถตุดิบที่สำคัญสำหรับวงการเครื่องประดับ
ทองคำได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในวงการเครื่องประดับ เพราะเป็นโลหะมีค่าชนิดเดียวที่มีคุณสมบัติเด่นถึง 4 ประการ ซึ่งทำให้ทองคำโดดเด่นเป็นที่ต้องการทั่วโลก.
1.ความงดงามมันวาว (Lustre) สีสันที่สวยงามตามธรรมชาติผสานกับความมันวาวก่อให้เกิดความงามอันเป็นอมตะ ทองคำสามารถเปลี่ยนเฉดสีทองโดยการนำทองคำไปผสมกับโลหะมีค่าอื่น ๆ ช่วยเพิ่มความงดงามให้แก่ทองคำได้อีกทางหนึ่ง.
2.ความคงทน (Durable) ทองคำไม่ขึ้นสนิม ไม่หมอง และไม่ผุกร่อน แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรก็ตาม.
3.ความหายาก (Rarity) ทองคำเป็นแร่ที่หายาก กว่าจะได้ทองคำมาหนึ่งออนซ์ ต้องถลุงก้อนแร่ที่มีทองคำอยู่เป็นจำนวนหลายตัน และต้องขุดเหมืองลึกลงไปหลายสิบเมตรจึงทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูง เป็นสาเหตุให้ทองคำมีราคาแพงตามต้นทุนในการผลิต.
4.การนำกลับไปใช้ประโยชน์ (Reuseable) ทองคำเหมาะสมที่สุดต่อการนำมาทำเป็นเครื่องประดับ เพราะมีความเหนียวและอ่อนนิ่ม สามารถนำมาทำขึ้นรูปได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยการทำให้บริสุทธิ์ (Purified) ด้วยการหลอมได้อีกนับครั้งไม่ถ้วน.
https://www.facebook.com/Jaroenthong4/
Comments